ช่วงดำเนินกิจการ ของ นพรัตน์ กุลหิรัญ

จากนั้น เธอได้แต่งงานกับหิรัญ กุลหิรัญ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการซ่อมรถและดัดแปลงเครื่องยนต์ ที่ภายหลังได้เริ่มติดต่อกับกองทัพในลักษณะตัวแทนจัดหาอุปกรณ์เครื่องยนต์ และซ่อมบำรุงช่วงล่างให้กับรถบรรทุก[11]

ต่อมา ในช่วงสงครามเวียดนามสิ้นสุด กองทัพสหรัฐได้ถอนฐานทัพและทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากไว้ที่ประเทศเวียดนาม, กัมพูชา และลาว ทางสามีของเธอจึงได้ขอซื้อจากกองทัพสหรัฐ เพื่อนำกลับมาที่ประเทศไทย ส่งผลให้โรงงานมีอะไหล่จำนวนเพียงพอแก่ความต้องการของกองทัพไทย ในขณะเดียวกัน เธอเองก็ได้หาซื้อเครื่องจักรตามโรงงานที่เลิกกิจการอีกหลายแห่ง เพื่อนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมเข้ามา[11]

เนื่องด้วยเธอเป็นผู้มีทักษะด้านการเจรจา และเก่งภาษาอังกฤษ เธอได้สอบถามทหารสหรัฐที่มาประเทศไทยว่าตีนตะขาบรถถังหาซื้อได้ที่ไหน จนทราบที่อยู่ และติดต่อซื้อเพื่อเสนอขายให้แก่กองทัพ ระหว่างไปตรวจรับสินค้าที่สหรัฐ เธอใช้ความจริงใจและไหวพริบพูดคุย จนสามารถเข้าไปในโรงงานผลิตที่เป็นเขตหวงห้ามได้สำเร็จ[11]

เธอได้ศึกษาวิธีผลิตและนำความรู้ต่าง ๆ กลับมาบอกสามี แล้วร่วมกันสร้างโรงงานที่ประเทศไทยตามแบบสหรัฐ ซึ่งต่อมา เจ้าของโรงงานสหรัฐที่เธอติดต่อด้วยได้เดินทางมาเยี่ยมและขอเข้าชมโรงงาน[11]

จากการพูดคุย ส่งผลให้เขาเกิดความประทับใจต่อนพรัตน์ โดยได้บอกว่าหากเขาเลิกกิจการจะขายเครื่องจักรทั้งหมดให้ ซึ่งเธอเองก็มีความสนใจ แต่มีเงินประมาณ 25 ล้านบาทในขณะนั้น เธอจึงเสนอโอนเงินให้เท่าที่มี เพื่อซื้อตามแต่เขาจะให้[11]

ซึ่งทางโรงงานสหรัฐได้มอบเครื่องจักร 45 ตู้ รวมถึงแบบพิมพ์, เครื่องอัดยาง และเครื่องขึ้นรูปตีนตะขาบ กระทั่งกิจการของเธอเติบโตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย และเริ่มตระเวนหาคู่ค้าในต่างประเทศ[11]

แหล่งที่มา

WikiPedia: นพรัตน์ กุลหิรัญ http://www.amarintv.com/lifestyle-update/tank/1738... http://www.komchadluek.net/news/ent/277195 http://www.graduation.rmutt.ac.th/content/8357 http://www.playboy.co.th/magazine/view/firstwin https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_11... https://mgronline.com/celebonline/detail/958000005... https://www.posttoday.com/politic/report/498733 https://praew.com/people/17778.html https://praew.com/people/44777.html https://www.settrade.com/C04_05_stock_majorshareho...